วันพุธที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2558

การบำเพ็ญทุกรกิริยา

 การบำเพ็ญทุกรกิริยา

        การบำเพ็ญทุกรกิริยา  หมายถึง กิริยาที่ทำได้ยาก  อาทิ การลดปริมาณในการรับประทานอาหาร จนถึงขั้นไม่รับประทานเลย  การกลั้นลมหายใจ การบำเพ็ญเพียรเพื่อบรรลุธรรมวิเศษ ด้วยวิธีการทรมานตนด้วยวิธีต่างๆ เป็นวิธีของโยคี 
        หลังจากโยคีสิทธัตถะทรงศึกษาจากสำนักอุทกดาบส รามบุตร และอุทกดาบสจนสำเร็จสมาบัติ 7 จากสำนักอาฬารดาบส กาลามโคตร และสมาบัติ 8 แล้ว พระองค์ทรงเห็นว่าวิชาที่ศึกษามายังมิใช่หนทางแห่งโพธิญาณ จึงอำลาออกจากสำนัก 

        เมื่อพระองค์ทรงเปลี่ยนพระทัย ที่จะคิดค้นคว้าแสวงหาความรู้ด้วยพระองค์เอง แทนที่จะ ทรงเล่าเรียนในสำนักอาจารย์ทั้งสองแล้ว 
        พระองค์เริ่มด้วยการทรมานพระวรกายตามวิธีการของโยคี เรียกว่า การบำเพ็ญทุกรกิริยา  ณ บริเวณแม่น้ำเนรัญชรา  ตำบลอุรุเวลาเสนานิคม มีปัญจวัคคีย์ ได้แก่ โกณฑัญญะ วัปปะ ภัททิยะ มหานามะ และอัสสชิ เป็นอุปัฏฐาก 
        พระองค์ทรงกระทำทุกรกิริยา เช่น ลดอาหารลงทีละน้อยจนถึงงดเสวย ร่างกายซูบผอม พระโลมา ( ขน ) มีรากเน่าหลุดออกมา แลเห็นพระอัฐิได้ชัดเจนทั่วพระวรกาย การกลั้นลมอัสสาสะปัสสาสะ 
        ทรงบำเพ็ญทุกรกิริยาติดต่อกันเป็นเวลานาน 6 ปี จนมีพระวรกายผ่ายผอมแต่ก็ยังคงไม่ได้พบหนทางหลุดพ้นจากทุกข์ได้ 
        เพราะเป็นการปฏิบัติฝ่ายอัตตกิลมถานุโยค ในที่สุดพระองค์จึงทรงเลิกการบำเพ็ญทุกรกิริยา 
        แล้วกลับมาเสวยพระกระยาหารเพื่อบำรุงพระวรกายให้แข็งแรง จะได้มี กำลังในการคิดค้นพบวิธีใหม่ 
        ขณะที่พระองค์ได้ทรงบำเพ็ญทุกรกิริยาอยู่นั้น ปัญจวัคคีย์ คอยปรนนิบัติรับใช้ ด้วยความหวังว่า เมื่อพระองค์ได้ตรัสรู้พวกตนจะได้รับการถ่ายทอดโมกขธรรมบ้าง 
        เมื่อพระองค์ล้มเลิก การบำเพ็ญ   ทุกรกิริยา ปัญจวัคคีย์ก็ได้ชวนกันละทิ้งพระองค์ไปทั้งหมด 
        เป็นผลทำให้พระองค์ได้อยู่ตามลำพังในที่สงบเงียบ ปราศจากสิ่งรบกวนทั้งปวง พวกปัญจวัคคีย์ได้หนีไปอยู่ที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน กรุงพาราณสี 
        พระองค์ได้ทรงตั้งพระสติและเดินทางสายกลาง คือ การปฏิบัติในความพอเหมาะพอควรหรือเรียกว่า มัชฌิมาปฏิปทา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น